....
เดี๋ยวนี้ ข้อมูลความรู้มีอยู่เยอะครับ มันอยู่แค่ปลายนิ้ว
มันเยอะจนบางทีเราต้อง "#สำลัก"ความรู้กันเลยทีเดียว
.
การเรียนรู้เกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา แต่มันจะมีประสิทธิภาพไหม อันนี้ผมไม่แน่ใจ
.
ผมอิจฉานะคนที่เรียนรู้ด้วยตัวเองได้โดย #ไม่ง่วง
#ไม่หลับ #ไม่วอกแวก ผมเรียนรู้อะไรที่มันเป็น "#วิชาการ"นานๆทีไร ผมหลับทุกที (ให้ตายเถอะโรบิ้น)
.
บทความนี้อาจจะไม่เหมาะกับคนที่"เรียนรู้ด้วยตนเอง"ได้ดี....ผมเขียนเพื่อชี้ให้เห็นว่ามีคนกลุ่มนึงที่ใช้วิธีแบบนั้นแล้วมันไม่ work
....
#ทำไมถึงไม่ work.?
.
1.#Style การเรียนรู้ของคนเราต่างกัน
.
บางคนชอบเรียนรู้คนเดียว มันเงียบดี บางคนชอบเรียนรู้เป็นกลุ่ม เพราะเรียนคนเดียวมัน "#ขี้เกียจ" มันแห้งเหี่ยวอับเฉา มันไม่มันส์...
.
2.#ความสามารถในการทำความเข้าใจแตกต่างกัน
.
ข้อมูลมีเยอะครับ เราเข้าถึงได้ง่าย และปัญหาในการเข้าถึงข้อมูลความรู้แลดูจะลดลงเรื่อยๆ...แต่ปัญหาที่พบคือ การทำความเข้าใจข้อมูลความรู้ครับ...เรื่องบางเรื่องมันก็เป็นขนมหวานสำหรับเรามันง่ายต่อการทำความเข้าใจ เรื่องบางเรื่องมันเป็นยาขมต้องมีการอธิบาย ต้องมีการถาม มีการตอบ
(มีการโต้ตอบกันไปมา) เช่น คณิตศาสตร์ชั้นสูง หรือ
Pure ฟิสิกส์ Pure chemistry/ สารภาพตามตรง ผมอ่านเองไม่รู้เรื่องหรอกครับ ต้องมีคนอธิบาย
.
3.#ปัญหาเรื่องวินัย
.
ปัญหานี้ส่วนมากมักเกิดขึ้นกับผู้เรียนที่เป็นเด็ก เด็กส่วนมากจะเบื่อง่าย เรียนรู้ไม่ทน บางทีก็แอบหลับ
.
อย่าว่าแต่เด็กเลยครับ ในวัยผู้ใหญ่เองเวลาศึกษาอะไรที่มันเป็นเรื่องที่ "วิชาการ"มากๆ เราก็หลับได้เหมือนกัน
.
4.#Physical #contact
.
การได้สัมผัสกับผู้คน เช่นทางสายตา ทางผิวหนัง
ทางสีหน้า มันทำให้คนบางกลุ่มเรียนรู้ได้ดีขึ้นครับ
#กลุ่มจะนำพาเราไปสู่บรรยากาศแห่งการเรียนรู้
.
เอาง่ายๆ ทำไมคนที่นับถือคริสตร์ เขาถึงไปที่คริสตรจักร ทุกวันอาทิตย์ เพราะมันมีมวลพลังงานไงครับ
พอพลังงานมันมารวมกันมันจะทำให้การไปโบสถ์มันน่าดึงดูดมากขึ้น/ถ้านมัสการพระเจ้าคนเดียวอยู่บ้าน โอกาสที่จะกลายเป็น "ลูกแกะหลงทาง"มีสูงมาก
โรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยก็เปรียบเสมือนคริสตรจักรนั่นแหละครับ มันมีพลังงานบางอย่างที่น่าดึงดูด
....
4.#connection/#เพื่อน
.
เพื่อนสนิทผมส่วนใหญ่ก็มาจาก #โรงเรียน #มหาวิทยาลัย #โบสถ์_ สถานที่เหล่านี้มันถูกออกแบบมาอย่างดี และเอื้อต่อการได้พบเพื่อนแท้ เพื่อนที่จริงใจเป็นอย่างมาก_ถึงเราจะชอบอยู่คนเดียวแค่ไหนก็ตามคนเราก็ต้องการเพื่อนอยู่ดี อาจจะ 2-3 คนก็พอแล้ว ไม่ต้องมาก แต่ขอให้ลึกซึ้งต่อกันและกัน
.
เพื่อนสมัยเรียนนี่แหละ ที่เราจะคบไปจนโต (บางคนก็จนตายจากกันไปเลย)_
.
.....ผมเป็นคนขี้บ่นครับ...แต่ชอบบ่นโดยการเขียนมากกว่า เพราะไม่ถนัดบ่นทางการพูด...
.
มีคนเคยกล่าวไว้ว่า "คุณจะเป็นคนอย่างไร ขึ้นอยู่กับเพื่อนที่คุณคบ 5 คน"
.
ผมว่าถึง AI จะมาแรงอย่างไรก็ตาม มนุษย์ก็ต้องการมนุษย์อยู่ดีนั่นแหละ ( ถ้าไม่เชื่อลองเอาคอมพิวเตอร์มาเป็น นายกรัฐมนตรี สิ เดี๋ยวจะรู้)
.
ไปล่ะ
.
Zolo ~
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น