"รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง"
คำกล่าวนี้ใช้ได้ดีเลยล่ะ-ในการสอบเข้ารับข้าราชการ กล่าวคือ เราต้องรู้ว่า การสอบมีการคัดกรองกี่ขั้นตอน? ขอบเขตข้อสอบมีอะไรบ้าง? และเนื้อหาที่ออกสอบมีลักษณะอย่างไร?
. การสอบเข้ารับราชการมันจะมีกระบวนการในการคัดกรองอยู่ 3 ขั้นตอนครับ
#การคัดกรองขั้นแรก คือ สอบภาค ก ครับ ภาค ก สมัยที่พี่สอบจะมีวิชาคณิตศาสตร์ การคิดวิเคราะห์ และภาษาไทย ภาค ก มีทั้งความยากและความง่ายในตัวของมันเอง
.
ความง่ายคือมันไม่ต้องท่องจำมากนัก- เน้นทำความเข้าใจเป็นหลัก
.
ในส่วนของคณิตศาสตร์กับการคิดเชิงวิเคราะห์ วิธีของพี่คือฝึกทำโจทย์บ่อยๆครับ ฝึกจนคล่อง แก้โจทย์ให้เร็วเพราะข้อสอบภาค ก นั้นยาก และเวลาในการทำยังมีน้อยอีกต่างหาก ดังนั้นการทำข้อสอบนอกจากจะต้องทำให้ถูกต้องแล้ว-ยังจะต้องทำให้เร็วด้วย
.
ส่วนภาษาไทยยั้น พี่ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากเพราะข้อสอบเป็นเรื่องการอ่านตีความ สรุปความ หรือเอาประโยคมาร้อยเรียงกัน ซึ่งคนที่เรียนนิติฯ ถนัดอยู่แล้ว เรื่องทำนองนี้
.
ส่วนในปัจจุบันมีภาษาอังกฤษและวิชาการเป็นข้าราชการที่ดีเพิ่มขึ้นมา วิชาการเป็นข้าราชการที่ดีพี่ไม่ค่อยห่วงน้องๆสักเท่าใดนักเพราะข้อสอบก็มีแต่กฎหมายทั้งนั้น...
ส่วนภาษาอังกฤษพี่ขอแบ่งออกเป็น ๒ ส่วนนะ
ส่วนที่เป็น Grammar อันนี้แนะนำให้ไปอ่านหนังสือของคุณ เฑียร ธรรมดา จะเข้าใจทะลุปรุโปร่งเลย
ส่วนคำศัพท์นี่ต้องค่อยๆสะสมครับ จำรากศัพท์ +prefix+ suffix ก็ช่วยได้ระดับนึง (แนะนำให้อ่าน รู้ทันสันดานศัพท์ของคุณ เฑียร ธรรมดา)
...
.
#การคัดกรองชั้นที่สอง #การสอบภาค #ข
....
ภาค ข ในมุมมองของพี่ง่ายกว่าภาค ก นะ เพราะข้อสอบมีแต่กฎหมายทั้งนั้น
.
แต่อย่างไรก็ตามอย่าเพิ่งดีใจไป -ภาคข มันก็มีคงามยากอยู่ กล่าวคือ แต่ละหน่วยงานก็จะออกข้อสอบไม่เหมือนกันครับ เพราะแต่ละหน่วยงานก็จะมีกฎหมายของตนเอง ดังนั้นขอบเขตในการอ่านก็ต้องเปลี่ยนไปตามหน่วยงานที่เราสมัครสอบ
.
แต่กระนั้นก็ตาม - กฎหมายบางเรื่องก็ออกข้อสอบทุกหน่วยงานเลย มันเป็นกฎหมายพื้นฐานที่ทุกหน่วยงาน(ของ กพ.)ออกสอบ เช่น กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กฎหมายอาญา กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา กฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายปกครองหลักทั่วไป กฎหมายระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน กฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง (มีประมาณนี้) กฎหมายเหล่านี้อ่านรอไว้เลย
.
เวลาหน่วยงานไหนเค้ามีประกาศรับสมัครสอบเราก็อ่านเพิ่มแค่กฎหมายเฉพาะของหน่วยงานนั้นๆ เช่น กรมสรรพสามิตรับสมัครสอบตำแหน่ง นิติกร เอาก็อ่านเพิ่มแค่กฎหมายสรรพามิตร
....
#การคัดกรองชั้นที่สาม การสอบภาค ค
...
อันนี้ไม่ยาก ก็คุยเรื่องทั่วๆไป ถามเรื่องทัศนคติและก็มีถามเรื่องวิชาการนิดหน่อย วิธีการเตรียมตัวก็ไม่มีอะไรมากก่อนเข้าห้องสอบให้สูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อลดความตื่นเต้นแค่นั้นพอ
5.#เทคนิคในการอ่านหนังสือ #และการสร้างแรงจูงใจให้กับตัวเอง
.
5.1 #เทคนิคในการอ่านหนังสือ
จากข้อ 4 ได้พูดไปแล้วว่าทำยังไงถึงสอบเป็นข้าราชการได้ทีนี้มาดูเทคนิคกันบ้าง
.
5.1.1 #เน้นทำความเข้าใจไม่เน้นท่องจำ ใช่แล้วครับเวลาอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบให้เน้นทำความเข้าใจ
อ่านซ้ำๆ พอทำความเข้าใจและอ่านซ้ำๆมันจะจำได้เองโดยอัตโนมัติ แต่มันจะไม่แม่นมาก -การท่องจำเอาไว้ขั้นตอนสุดท้ายครับ ท่องเฉพาะมาตราสำคัญก็พอ
และเวลาท่องให้เขียนแผนผังออกมาก่อน (ซึ่งแผนผังเป็นยังไง inbox เข้ามาถามได้ครับเพราะรายละเอียดมันเยอะ)
5.1.2 #ทำshortnote -อ่านแล้ว ทำ short note ครับ- การทำ short note นี่แรกๆจะดูเหมือนเสียเวลานะ แต่มันเป็นการเสียเวลาที่คุ้มมากๆเพราะขณะทำ short note เราก็จะจำได้ระดับนึง พอเวลาใกล้ๆสอบก็อ่านจาก short note นี่แหละเร็วดี จะได้ไม่ต้องไปอ่านหนังสือเล่มหนาๆเวลาใกล้สอบ
5.1.3 .#อ่านแล้วเอาสิ่งที่อ่านไปคุยกับเพื่อน เอาความรู้ไปถกกันครับจะทำให้เราจำได้แม่นขึ้น แต่ถ้าไม่มีเพื่อนก็คุยกับน้องแมวก็ได้ครับ อธิบายสิ่งที่เราอ่านมาให้น้องแมวฟัง อธิบายจนเราจำได้และเข้าใจมันจริงๆ อธิบายจนแมวหลับไปเลยก็ได้
...
ปล. ถ้าเราไม่สร้าง output ออกมา โดยการทำ short note หรือพูดมันออกมา เราจะไม่มีทางรู้เลยว่าเราจำได้หรือเข้าใจสิ่งที่เราอ่านมากน้อยเพียงใด และที่สำคัญพอเราเข้าใจและจำได้-ในขอบเขตที่เค้าจะออกข้อสอบ เวลาทำข้อสอบเราก็จะทำได้เอง
.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น