ทฤษฎีแลาใหญ่ในบ่อเล็ก Vs ทฤษฎีปลาเล็กในบ่อใหญ่

#ทฤษฎีปลาเล็กในบ่อใหญ่ Vs #ปลาใหญ่ในบ่อเล็ก
.
#ที่มาของทฤษฎี=คุณ Mallcom Gladwell
.
#แก่นของแนวคิด
.
"คนเราจะมี self-esteem ที่สูง หรือ มีการนับถือตนเองในระดับที่สูง ผลิตผลงานได้เยอะ อัตราการเป็นโรคซึมเศร้ามีน้อย->หากสถานที่ หรือกลุ่ม ที่เราสังกัดอยู่นั้น เราได้รับการยอมรับหรือได้รับการยกย่อง"
.
#ข้อโต้แย้งของทฤษฎีนี้
.
ข้อโต้แย้งของทฤษฎีนี้ก็มีเช่นกัน ใน "หนังสือ 12 กฎที่ใช้ได้ตลอดชีวิต"(12 rules for life) ในเรื่องเกี่ยวกับ "การเลือกคบเพื่อน" เราจะเลือกแบบไหน ระหว่าง
     1.) เพื่อนที่ด้อยกว่าเรา-เมื่อเราคบเพื่อนที่ไม่เก่งเท่าเราหรือไม่หล่อเท่าเราหรือด้อยกว่าเรา เวลาคบกันมันจะทำให้เรารู้สึกดีเพราะเรารู้สึกเหนือกว่า เรารู้สึกเป็นคนสำคัญ เราไม่รู้สึกด้อย
     2.)การเลือกคบเพื่อนที่เหนือกว่า-เวลาเราคบเพื่อนที่มีความเหนือกว่าเรามันจะทำให้เราปรับตัวเป็นคนที่เก่งขึ้น ดีขี้น เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของกลุ่มเพื่อน -เเต่อย่างไรก็ตาม หากเลือกทางเลือกที่ 2. หลายคนมักจะรู้สึกด้อยค่า หรือ เสีย self บางคนป่วยเป็นโรคซึมเศร้าไปเลยก็มี ทางเเก้คือ   
เราแต่เราต้องกำจัดความรู้สึกด้อยค่าออกไปและเพิ่ม มาตรฐานของตนเองให้สูงขึ้นให้พอๆกับเพื่อนที่เราคบ
.
#ทฤษฎี Vs #การท้าทายทฤษฎี
.
ทานข้าวก่อนครับ เดี๋ยวมาฝอยต่อ (เรื่องมันยาว)
.
มาต่อกัน
.
#ทฤษฎีปลาใหญ่ในบ่อเล็ก
.
คุณ Mallcom Gladwell สนับสนุนให้ใช้ทฤษฎีนี้ โดยเขาได้ยกตัวอย่างของสาวน้อยคนนึงซึ่งมีพรสวรรค์ด้านวิทยาศาสตร์อย่างมาก เธอได้รับความสนใจเเละได้รับการยอมรับมากๆในโรงเรียนของเธอ..จนกระทั่งวันหนึ่งเธอสอบติดสถานศึกษาชื่อดัง..เธอก็ได้พบว่า โอ้ววว มีเเต่คนเก่งๆ เรายังเก่งไม่พอ ผลที่เกิดขึ้นกับเธอคือ ผลการเรียนของเธอย่ำเเย่ลง ความสนใจที่มีต่อวิทยาศาสตร์ลดน้อยลง//ซึ่งเขาก็ได้ศึกษาเเบบเดียวกันก็ได้ข้อสรุปว่า นักศึกษาที่เป็นหัวกระทิของมหาวิทยาลัยเล็กๆมักจะประสบความสำเร็จมากกว่า นักศึกษาท้ายห้องของมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆอย่าง Havard เป็นต้น - ทั้งๆที่ผลการสอบ SAT ของคนสองกลุ่มนี้ไม่ได้ต่างกันมาก นักศึกษาท้ายห้องของ Harvard ออกจะได้คะเเนนมากกว่าด้วยซ้ำ...Mallcom สรุปว่าเกิดจาก "ความรู้สึกด้อย หรือความรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่ง" เมื่อเทียบกับนักศึกษาคนอื่นๆในห้อง..ทำให้เค้ารู้สึก fail ทั้งๆที่ระดับมันสมองไม่ธรรมดาเลย มันก็เเค่อยู่ใต้ยอดภูเขานิดหน่อย..ข้อสรุปของเขาคือควรเลือกศึกษาในที่ๆตัวเองรู้สึกดี รู้สึกไม่ด้อยค่าจนเกินไป เเละได้รับการยอมรับ
.
#ข้อโต้เเย้งทฤษฎีปลาใหญ่ในบ่อเล็ก
.
ทฤษฎีปลาใหญ่ในบ่อเล็ก ได้ถูก "#ท้าทาย" โดยนักเขียนท่านหนึ่งที่ชื่อว่า Jordan B. Peterson ผู้เขียนหนังสือ กฎ 12 ข้อที่ใช้ได้ตลอดชีวิต (12 rules for life) โดยในบทที่ 3 ผู้เขียนได้ตั้งข้อสังเกตุว่า...
.
ในหลักทั่วไปแล้ว คนเราก็จะมีความคิดแบบที่ Mallcom คิดเอาไว้นั่นแหละ ... คือเราจะไม่ค่อยคบกับคนที่เหนือกว่าเรา เช่นฉลาดกว่า ประสบความสำเร็จมากกว่า มีชื่อเสียงมากกว่า เป็นเพื่อนนักหรอก เพราะมันทำให้เรารู้สึกด้อยค่า รู้สึกเสีย self รู้สึกมองไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง
.
จากหลักการดังกล่าวทำให้เราเลือกที่จะคบคนที่ ไม่เก่งมาก ไม่ฉลาดมาก ไม่ประสบความสำเร็จมาก..หรืออาจจะคบกับคนที่มีปัญหาในชีวิต...เพราะมันสบายใจมากกว่า...มันเป็นกลไกป้องกันตนเองอย่างนึง
.
ผู้เขียนมองว่า หากเราอยากพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น เราก็ต้องยอมเอาตัวเองไปอยู่ในหมู่คนเก่งๆคนที่ฉลาดๆคนที่เหนือกว่าเรา...ให้รู้จักลดอัตตาลง....แล้วใช้ทฤษฎีกระจกเงาให้เป็นประโยชน์ แล้วพัฒนาตัวเองให้มีมาตรฐานที่สูงขึ้น...
.
การคบกับคนที่เหนือกว่าเราเป็น "#เรื่องยาก"ครับ
มันต้องต่อสู้ดิ้นรน/การคบหากับคนที่ด้อยกว่ามันเป็น
"#เรื่องง่าย"ครับ...หากเราอยากมีชีวิตที่ดีขึ้นเราต้องไม่ปล่อยตัวเองให้เป็นไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก...จงปรับใจปรับ mindset หัดทำเรื่องยากๆบ้างเพื่อชีวิตจะได้มีมาตรฐานที่สูงขึ้น ไม่ใช่ปล่อยตัวเิงให้มีมาตรฐานตกต่ำลงไปเรื่อยๆ
.
.
ถ้า 1 ห้องมีคน 30 คน คุณสอบได้ลำดับที่ 15 คุณจะเลือกคบใครระหว่าง คนที่สอบได้ที่ 1-5 หรือคนที่สิบได้ลำดับท้ายๆ
แล้วคุณล่ะ จะเลือกสังคมหรือองค์กรแบบไหน
คุณอยากจะเป็น #ปลาใหญ่ในบ่อเล็ก หรือเป็น
#ปลาเล็กในบ่อใหญ่.??
.
Zolo~บินเดี่ยวถลาลม

ความคิดเห็น