ประสบการณ์ในการเข้าอบรม MBTI

เล่าประสบการณ์การเข้าสัมนา #ไขรหัสบุคลิคภาพด้วย MBTI กับ #อาจารย์วาจาสิทธิ์ #ลอเสรีวานิช
.
อันนี้เล่าจาก "ประสบการณ์" ในการเข้าสัมนา กับ
#อาจารย์วาจาสิทธิ์ ลอเสรีวานิจ นะครับ
เนื้อหาใน"#เชิงหลักการ"มันสูงและซับซ้อนมากกว่านี้
เพราะที่เข้าอบรมมันเป็น MBTI ขั้นต้นครับ
.
#จะรู้จักบุคลิคภาพตัวเองไปทำไม.?
- เพื่อที่จะได้รู้ไงว่าเราถนัดอะไร ไม่ถนัดอะไร
จุดแข็งเราคืออะไร จุดออ่อน เราคืออะไร
- เพื่อเข้าใจคนอื่น
- เพื่อพัฒนาตนเอง
.
ผมรู้จัก MBTI มานานมากแล้ว แต่ก็ทำ Test เล่นๆไม่ได้ "จริงจัง"อะไรมากนัก_ก็แค่ตัวอักษร 4 ตัว
ทำสนุกๆ_อยู่มาวันนึงผมก็ได้รู้จักกลุ่มตลาด MBTI
ก็ได้รู้ว่า "โหเรื่องนี้มันลึกซึ้งมากเลย"ตัวอักษร 4 ตัวมันกลายร่างเป็น Cognitive function ได้ด้วย
ทำให้ผมได้คำตอบที่ผมสงสัยมานาน_ทำไมผมถึงตกวิชาพละตลอดนะ เพราะ function Se อยู่ลำดับที่ 4 ไง
เลยเล่นกีฬาไม่เก่ง__ทำไมเราไม่ค่อยสนใจข่าวสารบ้านเมืองว่าอะไรเกิด เกิดขึ้นเมื่อไหร่ เกิดขึ้นอย่างไร
แต่เราจะสนใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเกิดขึ้นเพราะเหตุใด มี"#ทฤษฎี"อะไรที่อธิบายได้บ้าง เพราะเราเป็นคนสาย N ไงไม่ใช่คนสาย S / ทำไมเราเครียดเราเหนื่อยเวลาอยู่กับคนเยอะๆ หรือคนที่ไม่คุ้นเคยเพราะเราเป็นคน introvert ไงไม่ใช่ Extrovert (อันนี้แค่ Basic นะ
ยังมีอีกเยอะมากที่ผมยังไม่รู้เกี่ยวกับ MBTI)
.
ตอนเข้าสัมนา สนุกมากครับ ได้เจอเพื่อนๆที่มี "นิสัยแปลกๆเหมือนกัน" 55//ได้เจอ อาจารย์ที่ Expert
นี่แหละคือที่ของเรา (ผมคิดในใจ)
.
#อบรมแล้วได้อะไรมั่ง.?
.
ในการอบรม อาจารย์จะให้จัดประเภทบุคลิคภาพตัวเองให้ได้ เพราะมันจะส่งผลต่อวิธีการในการพัฒนาตนเอง
จะมีตัวอักษรอยู่ 4 คู่
- คู่ที่ 1 E กับ I - E คือ Extrovert เป็นกลุ่มคนที่รับพลังงานจากผู้คน พลังงานเยอะ ตอบสนองไว
I คือ introvert คือกลุ่มคนที่ได้รับพลังงานจากการอยู่คนเดียว อยู่กับคนเยอะๆแล้วเครียด เหนื่อย ต้องหนีเข้าถ้ำเพื่อชาร์ตแบต มีพื้นที่ส่วนตัว (private zone)
ผมเป็น I
- คู่ที่ 2 S กับ N = คนกลุ่ม S sensing ดี ถนัดเล่นกีฬา
ชอบสนใจอะไรตรงหน้า มองสิ่งต่างๆอย่างที่มันเป็น
ส่วนคนกลุ่ม N มักชอบหา pattern หรือ concept ของสิ่งที่ประสบพบเจอ (คนกลุ่มนี้จะฟุ้งๆหน่อย-ชอบคุยเรื่องปรัชญา) ผมเป็น N
- คู่ที่ 3 T กับ S เป็นรูปแบบหรือวิธีการในการตัดสินใจ
คนกลุ่ม T ส่มารถแยกความรู้สึกออกจากเหตุผลในการตัดสินใจเรื่องต่างๆได้ ดูเด็ดขาด/ส่วนคนกลุ่ม F มักตัดสินใจบนพื้นฐานที่ว่า ตัดสินใจไปแล้วจะกระทบต่อบุคคลอื่นอย่างไร ผมเป็น F
- คู่ที่ 4 เป็นเรื่อง Life style ในการดำเนินชีวิต
มี 2 ตัวคือ J กับ P กลุ่ม J ชอบวางแผนไม่ค่อยยืดหยุ่น
ไม่ชอบด้นสด/คนกลุ่ม P ไม่ชอบวางแผนสักเท่าไหร่
ค่อนข้างชิลล์กว่าคนตัว J -ผมเป็น J
.
ความน่าสนใจมันไม่ได้อยู่ตรงนี้เท่านั้นครับ ความน่าสนใจมันอยู่ที่เรื่อง cignitive function ซึ่งค่อนข้างซับซ้อนพอสมควร เจ้า Cognitive function นี่แหละที่เป็นตัวบ่งบอกว่า ที่เราเป็นอยู่ในปัจจุบันเกิดจาก function ตัวใด (มันมีหลายตัว Ni Ne Fi Fe Ti Te Si Se)
.
ถ้าเราพัฒนาและใช้ cognitive function ได้ดี
สุขภาพจิตเราก็จะดี เราจะพอใจที่เราเป็นเรา เราจะสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างถูกจุด (เกาถูกที่คัน)
.
และหากพัฒนาดีๆ เราสามารถอ่านใจคนได้ด้วยนะ
(อาจารย์ไม่ได้สอนหรอกว่าให้เอาไปอ่านใจคน-เป็นสิ่งที่ผมมองเห็นประโยชน์ของ MBTI)
.
รายละเอียดมีอีกเยอะมาก....มีภาวะติด Loop /ภาวะติด grif /ภาวะผีสิง
.
ตอนนี้ผมก็ติด Loop บางอย่างอยู่/คงต้องสู้ต่อไปล่ะ (ทาเคชิ)
.
จบการรายงาน

ความคิดเห็น