สามีใหม่มาเยาะเย้ย-สามีก่าอ้างบันดาลโทสะได้หรือไม่./


เป็นคำพิพากษาที่น่าสนใจมาก_เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังนะ
.
เรื่องราวมีอยู่ว่า นางสาว ก. กับ นาย ข. เเต่งงานจดทะเบียนสมรสกัน
เเต่ก็ไม่รู้เหตุผลกลใด ก็ไม่อาจทราบได้ นางสาว ก กับ นาย ข ได้จดทะเบียนหย่ากัน...หลังจากที่จดทะเบียนหย่า นางสาวก็ ก็ได้ไปมีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ นาย ค. ต่อมา นาย ข.กับนาย ค.ไปรับประทานเหล้าด้วยกัน 
เเต่ นาย ข. ไม่ยอมกินเหล้าเเก้วเดียวกันกับ นาย ค./นาย ค จึงโพล่งขึ้นมาว่า "#มีเมียคนเดียวกันยังมีได้ #ทำไมเหล้าเเก้วเดียวกันจะดื่มด้วยกันไม่ได้
เเละ "#เรื่อง hee อันเดียวกันเเบ่งกันกินใช้มั่งไม่ได้เหรอ"...นาย ข.รู้สึกโมโหก็เลยใช้ปืนยิง นาย ค.เเม่งเลย นาย ค.ก็ตาย ตามระเบียบ.
.
เมื่อการณ์เป็นดั่งนี้ นาย ข ก็ถูกฟ้องเป็นจำเลย นาย ข ต่อสู้ว่าที่ตนกระทำไปเช่นนั้นเพราะถูกข่มเหงรังเเกอย่างร้ายเเรงเป็นการกระทำไปโดยบันดาลโทสะ..ดังนี้ให้ลดโทษในความผิดฐานฆ่าคนตายให้ด้วยเพราะที่ฆ่านั้น เพราะนาย ค.ใช้วาจาข่มเหงรังเเกตน
.
#ศาลตัดสินว่า
.
"การกระทำความผิดอันจะเข้าเหตุเป็นกํารกระทำโดยบันดาลโทสะได้ ต้องเป็นกรณีที่ผู้ใดถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงได้กระทำต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น  #เมื่อจำเลย (นาย ค.) กับนางสาว ก. #จดทะเบียนหย่ํากันแล้ว การที่นํางสําว ก. มีความสัมพันธ์ฉันชู้สําวกับนาย ค. ผู้ตายโดยไปเป็นภริยาอีกคนของผู้ตาย ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของนางสาว ก.     
#จำเลยไม่มีสิทธิหึงหวง 
          แม้ก่อนเกิดเหตุผู้ตํายจะพูดกับจำเลยว่า 
“มีเมียคนเดียวกันยังเย็ดกันได้ ทำไมเหล้าแก้วเดียวกัน จะดื่มด้วยกันไม่ได้”และ“เรื่อง hee อันเดียวกันแบ่งกันกินใช้มั่งไม่ได้เหรอ”ก็ตาม ก็เป็นเพียงถ้อยคำที่หยาบคาย เป็นเรื่องที่ผู้ตายไม่สมควรที่จะกล่าวออกมําให้เป็นที่ระคํายเคืองแก่จำเลยซึ่งเป็นอดีต สามีของนํางสาว ก.เท่านั้น ยังไม่ถึงขนาดที่จะถือว่าเป็นกํารข่มเหงจำเลยอย่ํางร้ํายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยใช้อําวุธปืนยิงผู้ตํายจึงไม่เป็นกํารกระทำโดยบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมํายอาญา มาตรา ๗๒
(คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๓๐๔๗/๒๕๖๓)
.
#หมายเหตุ 
.
ข้าเเต่ศาลที่เคารพ ด้วยความเคารพอย่างสูง ข้าพเจ้ามิอาจเห็นด้วยกับคำพิพากษาของศาลฎีกาได้ ด้วยเหตุผลดังนี้
๑.มาตรา ๗๒ เเห่งประมวลกฎหมายอาญาบัญญัติว่า
   "ผู้ใดบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงกระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น ศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้"
.
๒.จากบทบัญญัติดังกล่าว ข้าฯ เห็นว่า การพูดเช่นนั้นกับ สามีเก่าของ ของ นาง ก เป็นการย่ำยีศักดิ์ศรี เเละเป็นการข่มเหงน้ำใจอย่างร้ายเเรง ใครก็ตามที่อยู่ในภาวะเช่นนั้น ก็คงรู้สึกถูกข่มเหง เเละโมโห เป็นธรรมดา ที่จำเลยกระทำไปเช่นนั้น เพราะถูกข่มเหงอย่างร้ายเเรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม ดังนั้น จำเลยจึงอ้างเรื่องบันดาลโทสะได้ เเละศาลสามารถลดโทษให้จำเลยตามมาตรา ๗๒ ได้
.
ปล...ผู้ชายฆ่าได้ หยามไม่ได้ครับ / ด้วยความเคารพอย่างสูง

ความคิดเห็น