ระบบราชการฝึกอะไร

อาชีพ "#รับราชการ"เป็นที่นิยมมากในสมัยก่อน...

จนมีคำกล่าวที่ว่า "สิบพ่อค้า ไม่เท่าหนึ่งพระยาเลี้ยง"

คนเก่งๆระดับหัวกะทินิยมที่จะประกอบอาชีพรับราชการกัน (โดยเฉพาะช่วงกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น

จนถึงก่อนมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ปี ๒๔๗๕)

.

ส่วนในยุคปัจจุบันนั้น คนระดับ "#หัวกะทิ"ไม่ค่อยนิยมรับราชการกันเพราะได้ค่าตอบแทนน้อย คนเก่งๆมักจะเป็น "นายตัวเอง" เป็น "เจ้าของบริษัท" (อยู่ภาคเอกชน)

...แต่ไม่ใช่ว่าคนระดับ "หัวกะทิ" ในระบบราชการจะไม่มีเลย ยังคงมีอยู่..ส่วนเหตุผลว่าทำไมเค้าถึงรับราชการทั้งๆที่ เก่งขนาดนั้น อันนี้ต้องไปถามเค้าเอง ผมไม่รู้...

.

ผมเป็นคนนึงที่ "หลงเข้ามาอยู่ในดงข้าราชการ"ได้เจอคนที่มีคุณภาพเยอะมาก คนระดับหัวกะทิก็เจอบ้าง

(คือ ระบบราชการมีขั้นตอนการคัดคนถึง ๓ ขั้นตอนเพื่อให้ได้คนที่มี "#คุณภาพเพียงพอ" ที่จะปฏิบัติงานได้)

.

#ระบบราชการสอนอะไรผมบ้าง.?

.

๑.#ระบบราชการฝึกให้เราคิดเป็นระบบ และ #ใส่ใจในรายละเอียด

.

การทำสิ่งต่างๆในองค์กรเป็นการฝึกให้เรา "คิดเป็นระบบ" อยู่ในตัวของมันเอง เช่น การที่คุณจะร่างหนังสือ

เสนอผู้บังคับบัญชาสักเรื่อง คุณต้องลำดับเหตุการณ์ให้ได้ Timeline ต้องเป๊ะ / เนื้อความเป็นเหตุเป็นผลสอดคล้องซึ่งกันและกัน/เวลาร่างหนังสือเราจะมี step

ในการร่างอยู่ว่าเรื่องนั้น ข้อเท็จจริงมีว่าอย่างไร?

ข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับเรื่องนั้นมีว่าอย่างไร?

ปรับข้อเท็จจริงเข้ากับข้อกฎหมาย และเสนอความเห็น

.

นอกจากตัองทำหนังสือให้ได้เนื้อความที่มีความเป็นเหตุเป็นผลสอดคล้องซึ่งกันและกันแล้ว ผู้เสนอเรื่องยังต้องมีความละเอียดละออด้วย เช่น การใช้คำ ช่องไฟ

กั้นหน้า กั้นหลัง เป็นต้น

.

๒.#ฝึกเรื่องมนุษยสัมพันธ์

.

ทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ของผมนั้น ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน

ผมมีโลกส่วนตัวที่สูงมาก อินดี้ ติสท์แตก ไม่สนโลก

แต่พอมาอยู่ในระบบมันก็ต้องปรับตัว ฝึก skill ด้านมนุษยสัมพันธ์ (สำหรับผมแล้วมันเป็นเรื่องท้าทายพอสมควร)

.

บางทีการไปสังสรรค์กับเพื่อนร่วมงานบ้างมันก็ดีเหมือนกัน => คือ มันทำให้การทำงานราบรื่นขึ้น

(แต่ควรสังสรรค์อย่างพอเหมาะพอดี อย่าไหล)

.

๓.#ฝึกการบริหารเงิน

.

อาชีพข้าราชการเงินเดือนไม่เยอะครับ ใช่คุณฟังไม่ผิดหรอก อาชีพข้าราชการเงินเดือนไม่้ ดังนั้นก็ต้องรู้จักวิธี "บริหารเงิน" หลายคนใช้วิธีหารายได้เพิ่มหลังเลิกงาน หรือเสาร์อาทิตย์ เพื่อให้มีรายได้พอกับรายใช้

บางคนก็เป็นนักลงทุน บางคนก็ขายของ บางคนทำบ้านเช่า (หลากหลายมากครับ) เพราะรายได้จากการรับราชการอย่างเดียวมันไม่พอไง

.

๔.#ฝึกหลักการครองตน #ปฏิบัติตนให้อยู่ในกรอบศีลธรรมอันดี

.

สมัยก่อน ใครทำอะไร บางทีไม่มีคนรู้หรอก เพราะสมัยก่อนไม่มี internet ความเร็วสูง ไม่มี facebook ไม่มี

youtube

.

แต่สมัยนี้ การจะทำอะไรต้องดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดี ไม่เช่นนั้นแล้ว ความชั่วร้ายที่คุณทำไว้จะแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว_ยิ่งเป็นข้าราชการด้วยแล้วยิ่งโดนจับจ้อง ทางที่ดีที่สุดคือ ครองตนให้อยู่ในศีลธรรมอันดี

.

ปล.อันนี้เป็นมุมมองส่วนตัว ค่อนข้าง subjective

.